welcome

ยินดีต้อนรับเข้าสู่จังหวัดนครราชสีีีมา        * แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา        *ร้านอาหาร        *โรงแรม / ที่พัก        * ติดต่อ : 044-965062

วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ปราสาทหินพนมวัน

ปราสาทหินพนมวัน

ปราสาทหินพนมวัน
นครราชสีมา หรือ โคราช ถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ผู้เขียนมีโอกาสแอบไปเที่ยวอยู่ บ่อยๆ ในยามที่เกิดอาการเบื่อหน่าย อาจเป็นเพราะระยะทางไม่ห่างจากกรุงเทพฯมาก นักอีกทั้งการเดินทางก็สะดวกสบาย
แต่ด้วยความที่โคราชเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ กว้างขวาง มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายทั้งป่าเขา แม่น้ำลำธาร ตลอดจนวัดวาอาราม และโบราณสถานสำคัญๆ จึงทำในการเที่ยวแบบล่องลอยของผู้เขียนนี้ไม่ทั่วนครโคราช เลยสักครั้ง จะเว้นก็แต่ครั้งนี้ ที่ดูเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่ได้มาแบบตั้งใจไปให้ทั่ว เพราะเลือกแล้วที่จะมาชื่นชมความอลังการณ์ของปราสาทหินพนมวัน ซึ่งเป็นหนึ่งใน หลายปราสาทหินที่ปรากฏในไทย สิ่งเหล่านี้ถือหลักฐานชิ้นสำคัญที่ขอมโบราณทิ้งให้ เห็นว่าในอดีตที่ผ่านมาเคยมีอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่นัก
ระยะทางเพียง กิโลเมตร ไม่ไกลจากเมืองโคราชมากนัก ก็ถึงบ้านมะค่า ตำบล บ้านโพธิ์ อำเภอเมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาทหินพนมวันแล้ว ปราสาท หินแห่งนี้มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย เป็นศิลปะแบบบาปวนสันนิษฐาน ว่าก่อสร้างด้วยอิฐในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๕ ต่อมาในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๘-๑๙ จึงได้ สร้างอาคารหินซ้อนทับลงไป จากจารึกที่ค้นพบเรียกปราสาทแห่งนี้ว่า “เทวาศรม” เป็น ศาสนสถานในศาสนาฮินดู ต่อมาจึงได้เปลี่ยนแปลงให้เป็นพุทธสถาน
ปัจจุบันกรมศิลปากรได้มีการบูรณะหลังจากหักพังไปมาก ทำให้เห็นซาก โบราณสถานเป็นเค้าโครงค่อนข้างชัดเจน เช่น ปรางค์จัตุรมุของค์ประธานหลัก ซึ่งหัน หน้าไปทางทิศตะวันออกโดยมีมณฑปอยู่เบื้องหน้าและมีทางเดินเชื่อมต่อระหว่าง อาคารทั้งสอง ทางด้านทิศตะวันออกมี “บาราย” สระน้ำขนาดใหญ่ประจำชุมชน เรียก ว่า “สระเพลง” ซึ่งยังคงสามารถใช้ประโยชน์ได้ถึงปัจจุบัน
ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของปรางค์มีอาคารก่อด้วยหินทรายสีแดงเรียกว่า “ปรางค์น้อย” ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปหินขนาดใหญ่ บริเวณโดยรอบปราสาทมี ระเบียงคต สร้างด้วยหินทรายและศิลาแลงล้อมเป็นกำแพงอยู่ ประตูทางเข้าเทวสถาน มีซุ้มประตูสลักหินทรายขนาดเล็กก่อสร้างเป็นรูปหอสูงทั้งสี่ทิศ บริเวณรอบนอก ปราสาททางด้านทิศตะวันออกห่างจากโบราณสถานเกือบ ๓๐๐ เมตร มีร่องรอยของคู น้ำและเนินดิน
เรียกกันแต่เดิมว่า “เนินนางอรพิมพ์” หรือ “เนินอรพิม” นอกจากนี้ยังพบศิลาแลงจัดเรียงเป็นแนวคล้ายซากฐานอาคารบนเนินแห่งนี้ด้วย สันนิษฐานว่าน่าจะเป็น “พลับพลาลงสรง” ในรูปแบบพิเศษที่ไม่เคยพบในที่อื่นๆ ของ ประเทศไทย อาจใช้เป็นเรือนสำหรับรับรองเจ้านายหรือเป็นวังของผู้ปกครองเมืองพนม วัน แล้วก็เป็นพลับพลาพระตำหนักรับเสด็จพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ หรือผู้แทนพระองค์ที่ น่าจะเดินทางมาถึงปราสาทพนมวันในยุคพุทธศตวรรษที่ ๑๘ เพื่อถวายพระพุทธรูป พระชัยพุทธมหานาถ
และจากการขุดค้นทางโบราณคดีโดยกรมศิลปากร ทำให้เรารู้ว่าปราสาทหิน พนมวันสร้างขึ้นเป็นจนเป็นยอดปราสาทโดยสมบูรณ์แต่ก็พังทลายแบบถล่มลงมาอย่าง รุนแรงทำให้ชิ้นส่วนรูปสลักที่มีอยู่ไม่มากนักกระทบกันจนแตกหัก เรือนยอดปราสาท แตกละเอียดเป็นชิ้นเล็กจนยากที่จะซ่อม ส่วนหน้าบันก็มีหลงเหลือจนเกือบครบทุกด้าน มีทั้งที่ยังไม่เริ่มแกะสลักไปจนถึงแกะสลักเสร็จแล้ว
แม้ว่าก่อนมาจะยังคลางแคงใจต่อกระแสเสียงเล่าลือว่าเป็นปราสาทหินที่ สร้าง ไม่เสร็จจะซึมซับติดตามแต่แต่ปราสาทหินพนมวันตรงหน้า กลับทำให้ผู้เขียนรู้สึกว่าที่นี่ เป็นเมืองที่มีลมหายใจแห่งความหวังอบอวลอยู่ เท่าที่ได้สัมผัสเพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น ก็ สามารถสรุปได้ว่าจะสร้างเสร็จหรือไม่มันไม่สำคัญเลย เพราะหินและอิฐแต่ก้อนแต่ละ แผ่นที่มีเหลืออยู่นั้น ได้บอกเล่าให้คนรุ่นหลังทราบถึงประวัติความเป็นมาต่างๆ ทั้งเรื่อง ของผู้คนที่เคยอยู่อาศัยในแถบนี้ รวมถึงภูมิปัญญา ความรอบรู้ และศิลปะวิทยาการ ต่างๆ มากมายเพียงพอแล้วค่ะ
ใครยังไม่เคยมาเที่ยวโบราณสถานในลักษณะนี้ แนะนำให้ลองมาดูค่ะ เที่ยวชม แล้วเชื่อว่าคุณจะทั้งหลงรักและหวงแหนโบราณสถานแบบนี้ สิ่งที่น่าสนใจของปราสาทหินพนมวัน
- เป็นศาสนสถานที่ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ ถูกสร้างในแบบศาสนาพราหมณ์ แต่มีการค้นพบพระพุทธรูป
- แผนผังของปราสาทหินพนมวันมีรูปแบบเดียวกันกับปราสาทหินพิมาย ใน ศิลปะร่วมแบบบาปวน
- การก่อสร้างลำบากเพราะแถบนี้ไม่มีภูเขาหินทราย จึงต้องไปเอาหินทรายมา จากที่ไกลแล้วขนมา จึงใช้หินทรายแดงที่มีคุณภาพต่ำผสมกับหินทรายสีขาวเทาเพราะ แหล่งวัตถุดิบที่ใกล้สุดมีหินทรายทั้งสองสีผสมกัน
การเดินทาง เส้นทางที่ง่ายที่สุดในการไปยังปราสาทหินพนมวัน คือเริ่มจากหน้า อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ไปทาง ต.จอหอ ใช้เส้นทางถนนมิตรภาพหรือถนนสุร นารายณ์ ผ่านหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ขับต่อไปทางจังหวัดขอนแก่น ข้ามสะพานสูงต่อไปอีกรวมช่วงนี้ 7 กิโลเมตร
เมื่อถึงแยกสัญญาณไฟจราจร จะมีป้าย บอกว่า “วัดหนองบัว วัดหนองจอก วัดพนมวัน” อยู่ด้านขวา ให้เลี้ยวขวาเข้าไปตามทาง อีกประมาณ 5 กิโลเมตรจะถึงวัดพนมวัน ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ปราสาทหินพนมวัน
ที่มา : http://www.isarapost.net/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น